วันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2558

            ปัญหาที่พบในวันนี้คือปัญหาเดิมเหมือนเมื่อวาน มีเด็กถูกกัด 4 คน เด็กที่กัดเป็นเด็กคนเดิม
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูเรียกเด็กมาตักเตือน ถามว่า "กัดเพื่อนทำไม ครูเตือนแล้วเมื่อวานว่าห้ามกัดเพื่อนอีก เพื่อนเจ็บ เห็นมั๊ยเพื่อนร้องไห้" จากนั้นครูก็เอารอยกัดที่มือให้ดู  เด็กคนที่กัดยืนนิ่งเงียบ แล้วยกมือไหว้ขอโทษเพื่อนทันที ครูถามต่อว่า "หนูกัดเพื่อน หนูทำผิดมั๊ย ครูจะทำโทษเด็กที่ทำผิด" เด็กตอบว่าผิด ครูลงโทษเด็กด้วยการตีมือข้างละ 1 ที แล้วบอกว่าถ้ายังกัดเพื่อนอีกจะตีแรงกว่านี้

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2558

           ปัญหาที่พบในศูนย์ฯวันนี้คือ มีเด็กถูกกัด 5 คน ซึ่งเด็กที่กัดเพื่อนนั้นเป็นคนเดียวกัน  ซึ่งปกติแล้วเด็กคนนี้เป็นเด็กที่เงียบ ไม่ค่อยพูด โดยสาเหตุมาจากการแย่งของเล่นกัน
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูเรียกเด็กมาพูดคุย ตักเตือนเด็กว่าการกัดเพื่อนนั้นเป็นสิ่งไม่ดี เพื่อนเจ็บ อยู่ด้วยกันต้องรักกัน ทีหลังอย่ากัดเพื่อนอีก พร้อมกันนั้นให้เด็กเข้าไปขอโทษเพื่อน

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2558

          ปัญหาที่พบในศูนย์ฯวันนี้ คือ เมื่อถึงเวลาทานอาหาร ครูได้เรียกเด็กๆมาต่อแถวเพื่อล้างมือก่อนทานอาหาร มีเด็กคนหนึ่งซึ่งปกติแล้วเป็นเด็กที่จะมาต่อแถวและปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างดี แต่วันนี้ผิดปกติ ยืนนิ่งไม่ขยับ ครูจึงเดินไปใกล้ จึงได้ทราบว่าเด็กฉี่ราดกางเกงไม่กล้าเดิน แล้วก็ร้องไห้เสียงดัง 
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูไม่ควรต่อว่าหรือดุด่าเด็ก เพราะจะทำให้เกิดความหวาดกลัว ครูพูดกับเด็กว่า "น้องฉี่ราดหรือค่ะ ไม่เป็นรัย ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวครูจะเปลี่ยนกางเกงให้ใหม่ แล้วเราไปล้างมือ ทานข้าวด้วยกันนะ" เมื่อครูพูดไป ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนกางเกงให้เด็ก ชวนเด็กคุยเรื่องอื่น แล้วจูงมือเด็กไปล้างมือกับเพื่อนๆ ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจ  และหยุดร้องไห้ 

วีนพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558

          ปัญหาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่พบในวันนี้คือ การฉี่ราดที่นอน เนื่องจากวันนี้ฝนตกทำให้อากาศเย็นสบาย เป็นสาเหตุให้เด็กฉี่ราดที่นอน ที่น่าสังเกตคือเด็กที่ฉี่ราดที่นอนคือเด็กโต (อายุ 3 ปีกว่า) ที่ครูอาจมองข้ามเพราะปกติเด็กโตจะไม่ฉี่ราดที่นอน แต่วันนี้ฉี่ราดที่นอนถึง 3 คน 
สาเหตุ ครูคอยตักเตือนแต่เฉพาะเด็กเล็กที่เข้ามาใหม่ในปีการศึกษานี้ให้ไปเข้าห้องน้ำก่อนนอนกลางวัน  
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูไม่ควรละเลยคำแนะนำ หรือกฎระเบียบที่ต้องคอยย้ำอยู่สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่แล้วครูมักจะละเลยการแนะนำกับเด็กคนเก่าที่เคยเรียนหรือเด็กที่โตแล้ว ครูควรบอกเด็กทุกคนให้ไปเข้าห้องน้ำก่อนนอนทุกครั้ง เพื่อเป็นการฝึกนิสัยให้เคยชิน 

วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558

          ปัญหาที่พบวันนี้คือ มีเด็กป่วยเป็นไข้หวัด มีน้ำมูก ไอจาม อยู่ 3 คน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อติดต่อกันได้ง่าย เพราะเด็กจะติดต่อกันง่ายจากการสัมผัส การเล่น การไอหรือจาม ไม่ได้ปิดปาก เนื่องจากยังไม่รู้จักวิธีป้องกันการติดต่อกับผู้อื่น
แนวทางในการแก้ไขปัญหา 
          1. ครูเปิดวีดีโอเรื่องเชื้อโรค และสนทนากับเด็กเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง พร้อมทั้งแนะนำเด็กว่า เวลาไอหรือจามให้เอามือป้องปาก ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ 
          2. เมื่อผู้ปกครองมารับเด็กครูแนะนำกับผู้ปกครองว่าควรให้เด็กทานยา และหยุดเรียนจนกว่าจะหาย เพราะจะทำให้ติดต่อไปสู่เด็กคนอื่นได้ ทั้งนี้ครูควรอธิบายเหตุผล ใช้คำพูดที่เหมาะสม มีเหตุผลกับผู้ปกครองเพื่อให้เข้าใจและให้ความร่วมมือ

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2558

          ปัญหาที่พบอยู่เสมอในช่วงจัดกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและความคิดสร้างสรรค์ เด็กขีด เขียน ระบายสีภาพ เด็กมักจะแย่งดินสอสี หรืออุปกรณ์ต่างๆเสมอ
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูแนะนำว่าดินสอนี้เป็นของคุณครู ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ให้ใช้ด้วยกัน วางไว้ตรงกลาง แบ่งกันใช้ ถ้าใครแย่งกันอีกจะไม่ให้ใช้ และไม่ให้ระบายสีอีก เด็กจะเข้าใจและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่แย่งกัน ทั้งนี้ครูควรย้ำอยู่เสมอทุกครั้งที่ทำกิจกรรมและเกิดพฤติกรรมดังกล่าวขึ้นอีก เพราะเด็กวัยนี้ต้องคอยย้ำคำสอนและคำแนะนำอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรในเรื่องของการมีน้ำใจ ความรัก การเอื้อเฟื้อแบ่งปันอีกด้วย

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558

          วันนี้กลุ่มงานทันตกรรมจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองนาแซง มาตรวจสุขภาพช่องปากและฟันและเคลือบฟลูออไรด์ให้กับเด็กๆ ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาศูนย์ฯปีแรกจะรู้สึกหวาดกลัว ร้องไห้งอแง ไม่กล้าเข้าใกล้คุณหมอ เพราะเป็นคนแปลกหน้า 
แนวทางแก้ไขปัญหา ครูให้กำลังใจเด็กโดยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน กอดเด็ก บอกเด็กว่าคุณหมอขอดูฟันเท่านั้น แล้วเสริมแรงด้วยการชม ปรบมือ ให้รางวัลเด็กด้วยแปรงสีฟัน เมื่อเด็กคนอื่นเห็นก็จะรู้สึกว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิดและให้ความร่วมมือ

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558

               ปัญหาที่พบในวันนี้คือ ครูปล่อยให้เด็กเล่นตามมุมประสบการณ์ตามความสนใจ ที่มุมหนังสือ มีเด็ก 2 คนกำลังฉีกหนังสือขาดไปหลายเล่ม 
แนวทางในการแก้ไขปัญหา บอกให้เด็กรู้ทันทีถึงผลการกระทำของตน เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เด็กเข้าใจความสัมพันธ์ของเหตุและผล โดยเข้าไปพูดกับเด็กว่า การฉีกหนังสือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง หนังสือมีไว้อ่าน มีไว้ดู ถ้าฉีกขาดก็จะไม่มีหนังสืออ่านอีก 

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2558

          วันนี้ในช่วงเวลาของกิจกรรมกลางแจ้ง ครูปล่อยให้เด็กเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ ทันใดนั้นครูได้ยินเสียงเด็กใช้คำพูดหยาบคาย เนื่องจากแย่งกันเล่นชิงช้า 
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูเข้าไปบอกกับเด็กว่าให้แบ่งกันเล่น รอให้เพื่อนคนที่มาก่อน เล่นก่อน เมื่อเพื่อนเล่นเสร็จแล้วจึงค่อยมาเล่น และแนะนำให้เด็กไปเล่นเครื่องเล่นชนิดอื่นก่อน 
          เด็กที่พูดคำหยาบมีหลายสาเหตุด้วยกัน บางครั้งครูควรจะเฉยเสียและสอนเด็กทางอ้อม โดยครูเป็นแม่แบบของการใช้คำพูดที่เหมาะสมแทนการใช้คำหยาบของเด็ก

วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558

                      ปัญหาที่พบวันนี้คือ การเข้าแถว การเดินเป็นแถว ต่อแถว ยังไม่เป็นระเบียบ เด็กๆยังขาดระเบียบวินัยในตนเอง และในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ต่อแถวเพื่อล้างมือ การเดินแถวขึ้นห้องเรียน ต่อแถวรับอาหาร
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูต้องฝึกเรื่องระเบียบวินัยในการทำกิจกรรมต่างๆ ทุกวันอย่างสม่ำเสมอ สอนให้เด็กรู้จักคำว่ารอคอย จัดเรียงกระเป๋า รองเท้า ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาดื่มนมก็ต้องกำชับให้นั่งรอจนกว่าครูจะเรียกชื่อ สร้างเงื่อนไข กฎเกณฑ์ในห้องเรียน ให้เด็กเคยชิน จนเป็นนิสัย ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ครูควรหมั่นหากิจกรรมเพื่อปลูกฝังการมีระเบียบวินัยของเด็กอยู่เสมอ

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558

            วันนี้สถานการณ์ในศูนย์ฯ เป็นปกติเช่นทุกวัน แต่ครูหนึ่งคนลาป่วย ซึ่งเป็นครูประจำชั้นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี 5 เดือน เด็กวัยนี้ชอบให้อุ้ม และยังงอแงบ้างเล็กน้อย ซึ่งมีเด็กอยู่ 5 คน ที่ชอบให้อุ้มและชอบนั่งตักตลอดเวลา พออุ้มอีกคน อีกคนก็ร้องไห้ พอครูนั่งก็แย่งกันนั่งตัก จนก่อให้เกิดการหยิกกัน ผลักกันล้มบ้าง
แนวทางในการแก้ไขปัญหา ครูให้เหตุผลกับเด็กที่โตกว่าอย่าแกล้งน้อง อย่าผลักน้อง น้องยังเล็ก เด็กๆต้องรักกัน ต้องรักน้อง เป็นการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม เรื่องความรักสามัคคี  และพยายามให้เด็กเดินเอง ไม่อุ้ม (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ) เวลานั่งก็ให้เด็กนั่งอยู่ข้างๆ รอบๆตัวครู ฝึกให้เป็นนิสัย ไม่เช่นนั้นเด็กก็จะทำพฤติกรรมแบบที่เคยทำ และบอกกับเด็กๆว่า ถ้าอุ้มแล้วครูจะปวดแขน ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสามารถเข้าใจเหตุผลที่ครูพูดได้จริงๆ 

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2558

          เหตุการณ์ทั่วไปในศูนย์เป็นปกติ เด็กๆเริ่มปรับตัวเข้ากับครูและเพื่อนๆได้ดี ดูได้จากวันนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งปกติเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเด็กๆหลายคนยังร้องไห้งอแงอยู่ แต่วันนี้มีเด็กที่ร้องไห้งอแงเพียง 2 คน แต่ก็ร้องไห้แค่พักเดียวก็หยุด และร่วมทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันได้ 
ปัญหาที่พบและมักจะเห็นอยู่เสมอคือ เด็กไม่ทานผัก
แนวทางแก้ไขปัญหาที่ทำอย่างต่อเนื่อง ให้แม่ครัวหั่นผักเป็นชิ้นเล็กๆ ครูจะพูดย้ำอยู่เสมอว่าให้เด็กทานผักด้วย ทานแล้วจะแข็งแรง และชมเชยเด็กที่กินผักว่าเก่ง เด็กที่ไม่ทานผักเมื่อเห็นเพื่อนทาน เห็นครูชมเพื่อน ก็จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทานผัก 
         สิ่งสำคัญคือ ครูต้องคอยพูด คอยย้ำอยู่บ่อยๆ เวลาทานอาหาร หรือจัดประสบการณ์ เรื่องผัก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการปรับพฤติกรรมการทานผัก เด็กจะค่อยๆทานผักมากขึ้น 

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558

          วันนี้สถานการณ์ต่างๆในศูนย์ฯ คงเหมือนเดิม จะแตกต่างคือ มีเด็กคนหนึ่งที่ไม่ยอมนอน แล้วไปกวนเด็กคนอื่นๆที่นอนหลับแล้ว โดยไปปลุกให้ตื่น ส่งเสียงดัง สาเหตุจากผู้ปกครองพาเด็กตื่นสายจนเป็นสาเหตุให้มาศูนย์ฯ สายกว่าปกติ จึงส่งผลให้เด็กไม่ยอมนอน
แนวทางแก้ไขปัญหา ครูแนะนำผู้ปกครองว่าควรปลุกเด็กให้ตื่นแต่เช้าจนเป็นนิสัย เป็นหน้าที่ แล้วนำเด็กมาศูนย์ฯแต่เช้า ทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อปลูกฝังความมีวินัยและความรับผิดชอบต่อตนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2558

       กิจกรรมในวงกลม วันนี้ครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับเรื่องประโยชน์ของการออกกำลังกาย ครูพาเด็กออกกำลังกายด้วยท่าทางต่างๆ โดยให้เด็กทำตาม หลังจากนั้นครูให้อาสาสมัครออกมาทำท่าทางตรงกลางวงกลม โดยสร้างเงื่อนไขว่า เด็กคนใดต้องการออกมาเป็นผู้นำให้ยกมือ แล้วออกมาทำทีละคน
ผลที่ปรากฏคือ เด็กแย่งกันยกมือออกมาเป็นผู้นำทำท่าทางออกกำลังกาย และมีความสุขในการทำกิจกรรมร่วมกัน อีกทั้งยังเรียนรู้กฎเกณฑ์ต่างๆของสังคมอีกด้วย
ความสำคัญของการฝึกภาวะผู้นำสำหรับเด็กเล็ก
        ภาวะผู้นำเกิดของเด็กๆเกิดขึ้นได้จากการเลี้ยงดู  การเป็นแบบอย่างของบุคคลที่ใกล้ชิดและจากสิ่งแวดล้อม  การแสดงออกถึงภาวะผู้นำของเด็กๆ จะโดดเด่นขึ้นเมื่อได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆมากขึ้นในการเป็นผู้นำที่ดีได้  เด็กก็ควรมีบุคคลที่เป็นแบบอย่างของตนเอง หรือถ้ายังไม่มี ก็ควรนำตัวอย่างมาให้เด็กๆได้เห็น ได้รู้จักเพื่อสร้างแรงบันดาลใจหรือใช้วิธีเสริมแรง โดยคำชมเชย เสียงปรบมือ เพื่อให้เด็กมีจิตนาการในการเป็นผู้นำที่ดี  เป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคมดังนั้นครูและบุคคลใกล้ชิดควรปลูกฝังภาวะการเป็นผู้นำของเด็กตั้งแต่วัยเยาว์

                 
         

วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2558

       วันนี้ทำงานเอกสารต่างๆของศูนย์ฯ ที่บ้านเนื่องจากต้องใช้สัญญานอินเทอร์เน็ตและเป็นงานเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา งานที่ได้รับมอบหมายเสร็จลุล่วงด้วยดี ทันเวลาตามกำหนด
สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะหนักหนาหรือยากเย็นแค่ไหน ถ้าเรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นแล้ว ก็สามารถสำเร็จได้ด้วยความพยายามและความตั้งใจของเรา นั่นเอง

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2558

          วันนี้ตั้งใจว่าจะเข้าศูนย์ฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่สักครึ่งวัน แล้วจะกลับไปทำงานต่อที่บ้าน เพราะมีภารกิจเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา แต่เนื่องจากวันนี้มีเด็กหลายๆคนที่เด็กหยุดเรียนไปหลายวัน เนื่องจากสาเหตุต่างๆ ทำให้เด็กร้องไห้งอแง บางคนที่หยุดร้องไห้แล้วก็ร้องตามกัน ด้วยเหตุผลนี้ทำให้งานที่ได้รับมอบหมายต้องหยุดชะงักไว้ก่อน 
สาเหตุที่ทำให้เด็กร้องไห้งอแง เพราะผู้ปกครองไม่นำเด็กมาศูนย์สม่ำเสมอ เมื่อเด็กงอแงก่อนออกจากบ้านก็ไม่อยากพาไปศูนย์ฯ เพราะสงสารบุตรหลาน บ้างก็เป็นไข้ไม่สบายบ้าง
แนวทางแก้ไขปัญหา คือให้ผู้ปกครองนำเด็กมาศูนย์สม่ำเสมอให้เด็กรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำทุกเช้า และครูควรจัดกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ ครูต้องใกล้ชิดกับเด็ก ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจ ไม่กลัวครูรู้สึกผ่อนคลาย ตัวอย่างกิจกรรมในวันนี้

• กิจกรรมเคลื่อนไหวจังหวะ ร้องเพลง เด็กรู้สึกสนใจและมีความสุข มีอารมณ์คล้อยตามและสนุกกับเสียงเพลง
• กิจกรรมปั้นดินน้ำมัน เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และความคิดสร้างสรรค์
• เล่านิทานและคุยเรื่องราวต่างๆที่เด็กสนใจ เช่น ไปเที่ยวสวนสัตว์ ได้เห็นสัตว์อะไรบ้าง รูปร่างอย่างไร เป็นต้น 

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558

          วันนี้ตื่นแต่เช้า ไม่ได้เข้าศูนย์ฯ เพราะนำงานที่ได้รับมอบหมายไปให้หน่วยงานต้นสังกัด เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาตรวจมาตรฐาน ซึ่งงานที่ทำไปนั้นก็ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ทำอย่างเต็มที่สุดความสามารถ ถึงแม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบเล็กน้อย แต่ก็ภูมิใจและดีใจที่สุดเมื่อทราบว่าได้คะแนนเต็มจากเกณฑ์ประเมิน รู้สึกภาคภูมิใจในงานที่ทำ รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ....